ดูตัวอย่างหนังเรื่องขงจื๊อ Confucius

ดูตัวอย่างหนังเรื่องขงจื๊อ Confucius
วันที่เข้าฉาย2010-02-11
แนวหนังดราม่า
ผู้กำกับปีเตอร์ เปา
นักแสดงโจวเหวินฟะ

เรื่องราวใน Confucius

ประเทศจีนในยุคชุนชิว ซึ่งเป็นยุคแห่งการแย่งชิงอำนาจของเจ้านครต่างๆที่ต่างต้องการขยายอาณาเขต แคว้นหลู่ก็ไม่แตกต่างกัน เมื่อผู้นำแคว้นไม่มีอำนาจใดๆ เพราะอำนาจที่แท้จริงนั้นก็ถูกกระจายให้กับสามตระกูลใหญ่ตามหัวเมือง

เจ้านครหลู่รู้สึกประทับใจการทำหน้าที่ผู้สำเร็จราชการของ ขงจื๊อ เขาเชื้อเชิญให้ ขงจื๊อ มาเป็นที่ปรึกษาพิเศษ และมอบหมายให้เขาเป็นผุ้สำเร็จราชการหลวง สิ่งแรกที่ ขงจื๊อ ได้กระทำก็คือการช่วยเหลือทาส ที่ไม่ต้องการถูกฝังทั้งเป็นไปพร้อมกับเจ้านายที่เสียชีวิต แต่ความสำเร็จของเขาทำให้ นายพล กงซานหนิว แห่งกองทัพแคว้นหลู่รู้สึกเป็นปฏิปักษ์

ในศาล ขงจื๊อ ได้สาธิตในเรื่องการใช้ศีลธรรม รวมถึงวางแผนการอันชาญฉลาดในการยึดหัวเมืองทั้งสาม ที่สูญเสียไปให้กับแคว้นชีเมื่อสามทศวรรษก่อน โดยแผนการขั้นต่อไปของเขาก็คือการนำตระกูลทั้งสามกลับมาอยู่ภายใต้การปกครองของแคว้นหลู่ โดยการสั่งให้พวกเขาทำลายกำแพงที่สูงตะหง่าน ซึ่งเป็นเครื่องหมายของการไม่ยอมรับการปกครองของเจ้านครหลู่

แต่แล้ว ขงจื๊อ ก็ถูกลอบแทงข้างหลัง เมื่อเจ้านครชีแอบส่งครื่องกำนัลไปให้เจ้านครหลู่ เพื่อแลกเปลี่ยนกับการปลดตำแหน่งของ ขงจื๊อ และขับไล่ของจากอาณาจักร ขงจื๊อ ต้องลาจากครอบครัวด้วยความอาดูร และเริ่มชีวิตใหม่ในการเป็นนักปราชญ์เร่ร่อน เขาเดินทางไปพร้อมกับลูกศิษย์ที่เลื่อมใส นำโดย เอี๋ยนหุย ซึ่งยืนยันว่าจะเดินทางตามพระอาจารย์ไปทุกหนทุกแห่ง

ขงจื๊อและศิษย์เอกได้รับจากต้อนรับจากแคว้นวุย ที่หมายจะใช้ประโยชน์จากความรู้ของ ขงจื๊อ ให้มากที่สุด โดยอำนาจลับที่อยู่เบื้องหลังบัลลังค์เจ้านครก็คือนางสนมเอกที่ชื่อ หนานจื่อ ความใกล้ชิดของนางทำให้ ขงจื๊อ และลูกศิษย์รู้ดีว่าถึงเวลาแล้วในการออกเดินทางต่อ พวกเขาร่อนเร่ไปทั้งอาณาจักรอื่นๆจนกระทั่ง ขงจื๊อ ชราภาพ

ในขณะเดียวกันแคว้นหลู่ก็ถูกคุกคามโดยแคว้นชีอีกครั้ง พวกเขาออกตามหา ขงจื๊อ และชักชวนให้เขากลับมาช่วยปกป้องบ้านเกิด แต่ความอับอายที่เป็นตัวการในการขับไล่ ทำให้บุตรชายของเจ้านครหลู่จึงชักชวน หย่านฉิว ซึ่งเป็นนักรบฝีมือฉกาจและเป็นศิษย์เอกอีกคนของ ขงจื๊อ ในที่สุดพวกเขาก็พบ ขงจื๊อ ในอาณาจักรเฉิน เอี๋ยนหุย อ้อนวอนให้ ขงจื๊อ ปล่อยให้ หย่านฉิว กลับไปแคว้นหลู่

เมื่อฤดูหนาวเดินทางเข้ามา ขงจื๊อ และลูกศิษย์ต่างต้องทรมานกับความหนาวเหน็บ ในขณะที่พวกเขากำลังเดินทางหาบ้านหลังใหม่ เมื่อธารหิมะที่ใช้เดินทางแตก เอี๋ยนหุย ก็เป็นผู้ที่ช่วยรักษาตำราของ ขงจื๊อ เอาไว้ได้ แต่ก็พบกับจุดจบที่น่าเศร้า ขงจื๊อ ที่จมอยู่กับความเศร้าโศกจึงมีนิมิตรถึง เหล่าจื๊อ ผู้นำทางจิตใจของเขา

ลูกชายของผู้สำเร็จราชการนครหลู่ พบกับ ขงจื๊อ และมอบของกำนัลจากบิดาก่อนที่จะสิ้นใจเป็น “แหวนหยก” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความผูกพันระหว่าง ขงจื๊อ และบ้านเกิด ขงจื๊อ ตกลงที่จะเดินทางกลับมายังแคว้นหลู่ แต่ก็กลับมาในฐานะเพียงอาจารย์ เขาไม่ยอมเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมืองอีก และเขาก็รักษาสัญญาไว้จริงๆ เมื่อ ขงจื๊อ ใช้เวลาที่เหลือในชีวิตในการศึกษาตำราและแก้ไขบทกลอนและเขียนถึงประวัติศาสตร์
———————————————————

ผลงานทุนสร้าง 700 ล้านบาท ฝีมือจากผู้กำกับภาพรางวัลออสการ์ ปีเตอร์ เปา จาก Crouching Tiger, Hidden Dragon และผู้ออกแบบงานสร้าง หยีจงหมั่น แห่ง The Curse of Golden Flower โดยได้นักแสดงเจ้าบทบาท โจวเหวินฟะ มารับบท “ขงจื้อ”

Confucius คือภาพยนตร์ที่สร้างเพื่อเป็นเกียรติให้กับการครบรอบวันเกิดของ ขงจื๊อ ปีที่ 2,560 และเป็นการเฉลิมฉลองครอบรอบ 60 ปี ของการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน

ใครคือขงจื๊อ
ลัทธิขงจื๊อก่อตั้งและถูกใช้สอนให้กับผู้มามากกว่า 3 ศตวรรษ ก่อนที่ประเทศจีนจะถูก จิ๋นซีฮ่องเต้ รวมเป็นหนึ่ง ขงจื๊อ เกิดในแคว้นหลู่ช่วงกลียุค ซึ่งปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของมณฑลซางตง ชื่อเสียงของเขาคือการเป็นนักคิดและนักปรัชญา ขงจื๊อ ชนะใจผู้นำแคว้นต่างๆจนได้รับโอกาสดำรงตำแหน่งเป็นผู้สำเร็จราชการ

แต่ศัตรูทางการเมืองบีบบังคับให้เขาพ้นจากตำแหน่ง ขงจื๊อ ใช้ชีวิตช่วงบั้นปลายในการท่องไปตามหัวเมืองต่างๆ โดยการสอนและมีลูกศิษย์ผู้เลื่อมใสติดตามไปทุกหนทุกแห่ง ในช่วงกลียุคที่เต็มไปด้วยความรุนแรงและสงครามระหว่างเมือง เขาได้สอนถึงความสำคัญของอารยธรรม ศีลธรรม และการเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในสังคม บรรดาลูกศิษย์ของเขาได้รวมรวบคำสอนเอาไว้ใน คัมภีร์หลุนอวี่ ซึ่งถูกตีพิมพ์เอาไว้เมื่อ 2,000 กว่าปีที่แล้ว

ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ขงจื๊อ จากโลกไปด้วยความรู้สึกผิดหวัง แต่คำสอนของเขาก็กลับขึ้นมามีชีวิต ราชวงค์แล้วราชวงค์เล่า คนรุ่นแล้วรุ่นเล่า หลักคำสอนของ ขวจื๊อ กลายเป็นฐานหลักที่มั่นคงของอารยธรรมชาติจีน ภาพยนตร์เรื่องนี้เล่าถึงเรื่องราวของชีวิตที่ต้องระหกระเหินของนักปราชญ์ ผู้ยิ่งใหญ่ และอาจารย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่โลกเคยรู้จัก

——————————————————————–

เกร็ดระหว่างการถ่ายทำ

- Confucius ใช้เวลาถ่ายทำกว่า 8 เดือน ตั้งแต่ฤดูหนาวที่เย็นยะเยือก จนถึงฤดูร้อนที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส โดยการถ่ายทำฉากสงครามที่มีการใช้ไฟ นักแสดงประกอบต้องสวมชุดเกราะที่มีน้ำหนักกว่า 10 กิโล
- ฤดูหนาวในเดือนมีนาคม โจวเหวินฟะ ต้องถ่ายทำฉากที่เขานอนลงในบ่อโคลน โดยต้องถ่ายทำฉากนี้ถึง 13 ครั้ง
- เมื่อ 2,500 ปีก่อน ผู้คนมักจะนั่งคุกเข่าแทนที่การนั่งขัดสมาธิ ดังนั้นในระหว่างการพักถ่ายทำ โจวเหวินฟะ ก็จะนั่งคุกเข่าทุกครั้ง เพื่อที่จะได้เข้าถึงความเป็นอยู่ของคนในยุคชุนชิวมากขึ้น
- ทีมงานทุกคนในกองถ่ายรู้สึกว่า โจวเหวินฟะ เป็นนักแสดงที่ไม่ถือตัวและจริงใจ โดยเขาจะจับมือทุกคนในเวลาที่ต้องการทักทายและแสดงความยินดี ซึ่งทำให้ทุกคนเห็นถึงความเป็น ขงจื๊อ ในจิตวิญญาณของนักแสดงคนนี้
- ชุดที่ โจวซุน สวมในการรับบทเป็น หนานจื่อ ทำด้วยมือมาจากมรกตแท้และขนนกยูง เพื่อที่จะแสดงให้เห็นถึงความเอาใจใส่และความรู้สึกสมจริง ในการแสดงให้เห็นถึงตัวตนของ หนานจื่อ ที่ถูกจารึกในประวัติศาสตร์ว่า “สง่างามแต่ไม่อันตราย”
- ฉากที่ใช้เอฟเฟ็คที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือฉากการบุกโจมตีสามหัวเมือง ซึ่งก็เป็นหนึ่งในเหตุการณ์างปะวัติศาสตร์ที่สำคัญที่สุดครั้งหนึ่งในยุคชุนชิว โดยนี้ยังถือเป็นการใช้เลนส์กล้องที่มีคุณภาพสูงที่สุด ตั้งแต่มีการใช้กันมาในประเทศจีน

—————————————————–

ผลงานทุนสร้าง 700 ล้านบาท ฝีมือจากผู้กำกับภาพรางวัลออสการ์ ปีเตอร์ เปา จาก Crouching Tiger, Hidden Dragon และผู้ออกแบบงานสร้าง หยีจงหมั่น แห่ง The Curse of Golden Flower ที่ได้นักแสดงเจ้าบทบาท โจวเหวินฟะ มารับบท ขงจื้อ ซึ่งนอกจากทุนสร้างที่มหาศาลของ CONFUCIUS แล้ว นี่ยังเป็นหนังที่คาดหมายว่าจะเปิดฉายในวันชาติ และเป็นตัวแทนเข้าประกวดออสการ์ของจีนในปีหน้าอีกด้วย

นี้เป็นครั้งแรกของ โจวเหวินฟะ พระเอกนักบู๊ที่โด่งดังจากบทบาทในภาพยนตร์แอ็คชั่นของ จอห์น วู และเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกจากหนังพีเรียดอย่าง Curse of the Golden Flower และ Crouching Tiger, Hidden Dragon มาใส่เสื้อคลุมนักปราชญ์และใช้วาทะเป็นอาวุธแทนครั้งแรก โดยยังได้ โจวซุน นักแสดงสาวชาวจีนฝีมือดีจาก Perhaps Love, The Banquet และ Painted Skin มาร่วมแสดง

ที่มา www.mthai.com
แท็ก: Confucius, ขงจื๊อ, ปีเตอร์ เปา, หนังจีน, โจวเหวินฟะ

รายการบล็อกของฉัน